นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)

ฉบับปรับปรุงแก้ไขล่าสุดวันที่ 21 มีนาคม 2568

บริษัท พ้อมป์กินส์ จำกัด เป็นบริษัทที่ประกอบกิจการให้บริการด้านการจัดการร้านอาหารแบบครบวงจร ด้วยแพลตฟอร์มบนแอพพลิเคชั่นและบนเว็บไซด์ ที่มีความยึดมั่นการดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณ เคารพและปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ และตระหนักดีว่าลูกค้าต้องการความปลอดภัยในการทำธุรกรรมและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญด้านการเคารพสิทธิในความเป็นส่วนตัวและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า โดยได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้วยมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ลูกค้าได้มั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทฯ ได้รับจะถูกนำไปใช้ตรงตามความต้องการของลูกค้าและถูกต้องตามกฎหมาย

1. การเก็บรวบรวมและนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเฉพาะกรณีที่จำเป็นหรือมีฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งรวมถึงกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการดำเนินการตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ลูกค้าได้ทำไว้กับบริษัทฯ เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ การดำเนินการตามความยินยอมของลูกค้า และ/หรือ ภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นๆ โดยวัตถุประสงค์ในเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของบริษัทฯ ดังต่อไปนี้

  1. ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ
    บริษัทฯ  มีความจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานรัฐ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
    1. เพื่อปฏิบัติตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม
    2. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการตรวจสอบยืนยันตัวตน การทำความรู้จักลูกค้า (Know Your Customer) การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence) และการตรวจสอบอื่น ๆ เป็นต้น
    3. เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบและ/หรือคำสั่งของผู้มีอำนาจ เช่น คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ เป็นต้น
  2. ข้อกำหนดและสัญญาที่ลูกค้าได้ทำไว้กับบริษัทฯ
    บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปใช้ตามคำขอ และ/หรือ ข้อตกลงที่ลูกค้าได้ทำไว้กับบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
    1. ดำเนินการตามคำขอของลูกค้าก่อนการเข้าทำข้อกำหนดและเงื่อนไขกับบริษัทฯ การพิจารณาอนุมัติและการให้บริการผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ รวมถึงการให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ
    2. ยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมใดๆ
    3. ติดตาม หรือบันทึกการทำธุรกรรมของลูกค้า
    4. จัดทำรายงานต่างๆ เช่น รายงานการทำธุรกรรมตามที่ลูกค้าร้องขอ
    5. แจ้งเตือนการทำธุรกรรมและแจ้งเตือนผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการครบกำหนด
  3. ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ
    บริษัทฯ จะอ้างอิงฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยคำนึงถึงประโยชน์ของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่นกับสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
    1. บริหารกิจการของบริษัทฯ เช่น กำกับตรวจสอบ บริหารจัดการความเสี่ยง เฝ้าระวัง ป้องกัน และตรวจสอบการทุจริต การฟอกเงิน การก่อการร้าย การประพฤติโดยมิชอบ หรือการก่ออาชญากรรมอื่นๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบุคคลใดๆที่เกี่ยวกับบริษัทฯ
    2. บริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯ กับลูกค้า เช่น การบริการดูแลลูกค้า จัดการข้อร้องเรียน
    3. รักษาความปลอดภัย การติดตามข้อมูลการใช้เครือข่ายและเหตุการณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย
    4. พัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์บริการ และระบบงานต่างๆ ของบริษัทฯ เช่น การแจ้งปัญหาเมื่อระบบขัดข้อง
  4. ความยินยอมของลูกค้า
    ในบางกรณี บริษัทฯ อาจมีการขอความยินยอมจากลูกค้าในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด และ/หรือ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถให้บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ดังต่อไปนี้
    1. มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ใช้ข้อมูลการจดจำใบหน้า (Face Recognition) หรือภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งในบัตรดังกล่าวจะมีข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ได้แก่ เลขประจำตัวประชาชน ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของลูกค้าก่อนการทำธุรกรรม
    2. ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ให้บริการรับชำระเงิน ภายใต้กำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อวัตถุประสงค์ในการขอรับบริการการรับชำระเงิน
    3. กรณีลูกค้าเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) (เว้นแต่เป็นกรณีที่พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม)
    4. การดำเนินการอื่นที่บริษัทฯ ต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้า

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขอบเขตของผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ โดยมีทั้งข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้

  1. รายละเอียดส่วนบุคคล ได้แก่ ชื่อ ชื่อกลาง นามสกุล วันเดือนปีเกิด และวันหมดอายุ
  2. รายละเอียดการติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่ติดต่อทางไปรษณีย์ ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์ หมายเลขโทรศัพท์ โซเชียลมีเดีย และหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (ถ้ามี)
  3. รายละเอียดที่ใช้ในการระบุตัวตนและการยืนยันตัวตน ได้แก่ ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน เลขประจำตัวประชาชน ข้อมูลหนังสือเดินทาง บัตรประจำตัวคนต่างด้าว ลายมือชื่อ และ ภาพถ่ายคู่กับร้านค้า
  4. ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง เช่น พิกัดโดยประมาณการ ที่ตั้งร้านค้า (ละติจูด ลองจิจูด)
  5. ข้อมูลการเงิน เช่น ข้อมูลการชำระเงิน ชื่อบัญชี หมายเลขบัญชี ชื่อธนาคาร และสาขาธนาคาร
  6. ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบ ได้แก่ ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริง (Due Diligence) เช่น ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำความรู้จักลูกค้า (KYC) การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence) ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบและการบริหารความเสี่ยง การตรวจสอบ การฟอกเงินและต่อต้านการก่อการร้าย
  7. ข้อมูลการเข้าใช้ และการขอใช้บริการ ได้แก่ ข้อมูลการเข้าใช้ระบบของบริษัทฯ การทำธุรกรรมทางการเงินกับบริษัทฯผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และแอปพลิเคชันของบริษัทฯ
  8. ข้อมูลอื่นๆ ได้แก่ บันทึกการโต้ตอบและการสื่อสารระหว่างกับบริษัทฯ ไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีใดๆ ก็ตาม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ ไม่ว่าผ่านช่องทางใดๆ
  9. บริษัทฯ จะไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนาหรือความเชื่อในลัทธิหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน กรุ๊ปเลือด เป็นต้น หากบริษัทฯ ได้รับเอกสารซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ซึ่งไม่จำเป็นต่อวัตถุประสงค์นั้นมา ท่านตกลงที่ปิดบังข้อมูลดังกล่าวก่อนที่จะส่งเอกสารหรือข้อมูลแก่บริษัทฯ
  10. ในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัทฯ ก่อนที่จะส่งข้อมูลของบุคคลนั้น ท่านจะต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลนั้นทราบ เกี่ยวกับบริการของบริษัทฯ พร้อมกับนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) ฉบับนี้ และท่านยังคงจะต้องรับผิดชอบในการได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นอีกด้วย

3. วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล มีดังต่อไปนี้

  1. เพื่อสร้างและจัดการบัญชีผู้ใช้งาน
  2. เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะ ปรับปรุงบริการหรือประสบการณ์การใช้งาน
  3. เพื่อการตลาดและส่งเสริมการขาย
  4. เพื่อการบริการหลังการขาย
  5. เพื่อชำระค่าบริการ
  6. เพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไขสำหรับการใช้งาน
  7. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบของหน่วยงานราชการ

4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

โดยทั่วไปแล้วบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากลูกค้าโดยตรง แต่ในบางกรณีบริษัทฯ อาจได้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ามาจากแหล่งอื่น ซึ่งบริษัทฯ จะดำเนินการให้เป็นไปตามที่ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำหนด ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่น อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้

    • ข้อมูลที่บริษัทฯได้รับจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถาบันการเงิน บริษัทข้อมูลเครดิต และ/หรือ ผู้ให้บริการภายนอก เช่น ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรม

5. สิทธิตามกฎหมายของลูกค้า

พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในความควบคุมของลูกค้าได้มากขึ้น โดยลูกค้าสามารถใช้สิทธิของท่านตาม พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  1. สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า
    ลูกค้ามีสิทธิเข้าถึงและได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทฯมีอยู่ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯมีสิทธิปฏิเสธคำขอตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
  2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า
    ลูกค้ามีสิทธิขอให้บริษัทฯ ทำการแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
  3. สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า
    ลูกค้ามีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายข้อมูล หรือทำให้ข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของลูกค้าได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ จะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของลูกค้า
  4. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า
    ลูกค้ามีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณี เช่น บริษัทฯอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือลูกค้าขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากลูกค้ามีความจำเป็นต้องขอให้บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  5. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า
    ลูกค้ามีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทฯ ดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงหรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของลูกค้าโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น บริษัทฯ สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ
  6. สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า
    ลูกค้ามีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในกรณีที่บริษัทฯ สามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทฯไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของลูกค้าโดยชอบด้วยกฎหมาย
  7. สิทธิในการขอถอนความยินยอม
    ลูกค้ามีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัทฯ เมื่อใดก็ได้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่บริษัทฯกำหนด เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของลูกค้าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ ก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
  8. สิทธิในการร้องเรียน
    ลูกค้ามีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากบริษัทฯกระทำการอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลหรือองค์กรดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ของ พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  1. บุคคลอื่นใดที่บริษัทฯ มีนิติสัมพันธ์ด้วย รวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทฯ และ/หรือ ของบุคคลดังกล่าว
  2. หน่วยงานของรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถาบันการเงิน
  3. คู่ค้า ตัวแทน หรือองค์กรอื่น ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าจะมีวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเจาะจง ภายใต้ฐานทางกฎหมาย และมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม
  4. หน่วยงานป้องกันการทุจริต ศาล ทนายความ หน่วยงาน หรือบุคคลใดๆ ที่บริษัทฯ ถูกกำหนดหรือได้รับอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย กฎระเบียบ หรือคำสั่ง
  5. ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ตัวแทน หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของท่านที่มีอำนาจตามกฎหมายโดยชอบ
  6. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคล องค์กร หรือ เซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ โดยบริษัทฯ จะดำเนินการตามมาตรการต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังประเทศปลายทางนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอ หรือกรณีอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด

7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้าหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัทฯ หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากกฎหมายมีกำหนดไว้ บริษัทฯ จะลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

8. การใช้คุกกี้

บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน เมื่อลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทฯ รวมถึงการใช้เว็บไซต์ การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และแอปพลิเคชันของบริษัทฯ

9. การรักษาความปลอดภัย

บริษัทฯ มีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยภายในบริษัทฯ และการใช้บังคับนโยบายอย่างเข้มงวดในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการเข้ารหัสข้อมูล และมาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูล โดยบริษัทฯ กำหนดให้บุคลากรของบริษัทฯ และผู้รับจ้างภายนอกจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานและนโยบายความเป็นส่วนบุคคลที่เหมาะสม รวมถึงจะต้องจัดให้มีการดูแลรักษาข้อมูลและมีมาตรการที่เหมาะสมในการใช้หรือการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า

10. วิธีการติดต่อบริษัทฯ

หากลูกค้ามีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม  เกี่ยวกับประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ หรือต้องการขอใช้สิทธิของลูกค้า สามารถติดต่อบริษัทฯ และติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทาง ดังนี้

  • LINE official accounts : @POMPKINS
  • Call Center : โทร 02-136-2930
  • อีเมล : [email protected]
  • ที่ตั้งสำนักงาน : เลขที่ 2/1-2 ซอยลาดพร้าว113 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240